รู้ทันอาการโควิด! อาการ covid 19 อาการโควิด
เพราะไวรัสโควิด-19 เป็นไวรัสที่มุ่งเป้าไปที่ทำลายปอด ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือดในปอดและร่างกายทุกระบบ และเมื่อใดก็ตามที่เชื้อโควิด 19 สามารถเข้าไปขัดขวางการทำงานของปอดให้ผิดปกติ จะนำมาซึ่งวิกฤติจนไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้นเราควรติดตามข่าวสารอยู่ตลอดถึงจำนวนผู้ติดเชื้อ อาการโควิด อัตราการเสียชีวิตและวิธีป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจากการติดเชื้ออันตรายนี้
อาการโควิด
เนื่องจากโรคโควิด-19 ส่งผลต่อผู้คนในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการที่สามารถแบ่งได้ตามอาการเป็น 3 ระดับด้วยกัน เช่น
อาการโควิดล่าสุด
1.อาการโควิดระดับเบา (ระดับสีเขียว)
เป็นผู้ป่วยอาการไม่มาก หรือ ไม่มีอาการ หรือ อาการน้อย ๆ เช่น มีใข้ ไอ น้ำมูก ตาแดง ผื่นขึ้น ถ่ายเหลว จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ไม่มีโรคร่วม สามารถพักรักษาที่โรงพยาบาลสนาม หรือ โฮสพิเทล หรือ แยกกักตัวที่บ้าน รักษาด้วยการทำ Home Isolation
2.อาการโควิดระดับปานกลาง (ระดับสีเหลือง)
เป็นผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว หายใจลำบาก ไอแล้วรู้สึกเหนื่อย แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้ง/วัน หน้ามืด วิงเวียน
มีปัจจัยเสี่ยงอาการรุนแรงหรือโรคร่วม เช่น อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่คุมไม่ได้ ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ และเม็ดเลือดขาวน้อยกว่า 1000 ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
3.อาการโควิดระดับรุนแรง (ระดับสีแดง)
เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยหอบ พูดไม่เป็นประโยค หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอกตลอดเวลา เอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง อาการโควิดลงปอด มีภาวะปอดบวม ความอิ่มตัวของเลือดน้อยกว่า 96% หรือลดลงของออกซิเจนมากกว่า 3% หลังออกแรง ของค่าที่วัดได้ในครั้งแรกที่ออกแรง ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
และเมื่อใดก็ตามที่พบว่ามีอาการโควิดอยู่ในระดับรุนแรง ควรติดต่อเข้ารับการรักษาทันที ด้วยการติดต่อล่วงหน้าก่อนไปพบแพทย์หรือไปสถานพยาบาลเสมอ ในขณะที่ผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงและไม่มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ก็ควรรักษาตัวอยู่ที่บ้าน
รู้จักอาการโควิดแต่ละสายพันธุ์
“ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” เป็นไวรัสสายพันธุ์ที่ 7 ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน และภายหลังได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ โควิด-19 ” คาดว่าไวรัสตัวนี้ถูกค้นพบจากสัตว์ และเริ่มมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน อาการโควิดนั้นจำแนกออกเป็น 5 สายพันธุ์ ดังต่อไปนี้
อาการโควิดของเเต่ละสายพันธุ์
1.อาการโควิดสายพันธุ์แกมม่า
เป็นโควิดสายพันธุ์บราซิล รุนแรง แพร่กระจายง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม และภูมิคุ้มกันของวัคซีนในการป้องกันสายพันธุ์นี้ลดลง อาการโควิดคือ ปวดศีรษะ มีไข้สูง เจ็บคอ ส่วนมากจะมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ มีโอกาสติดเชื้อซ้ำที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ
2.อาการโควิดสายพันธุ์อัลฟ่า
เป็นโควิดสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น มากถึง 40-70% และยังเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดี อาการโควิดคือ มีไข้ 37.5๐C ขึ้นไป ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยร่างกาย หนาวสั่น หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนหรือท้องเสีย การรับรสหรือได้กลิ่นผิดปกติ มีโอกาสเจ็บป่วยและเสียชีวิตสูงขึ้น 30%
3.อาการโควิดสายพันธุ์เบต้า
เป็นโควิดสายพันธุ์แอฟริกาที่มีอัตราการแพร่เชื้อไวขึ้น 50% จากสายพันธุ์เดิม และมีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งสำคัญ จึงทำให้เชื้อไวรัสสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ ดังนั้นผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วก็ยังติดซ้ำได้อีก อาการโควิดคือ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยร่างกาย ท้องเสีย ตาแดง การรับรสหรือได้กลิ่นผิดปกติ มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง นิ้วมือหรือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี
4. อาการโควิดสายพันธุ์เดลต้า
เป็นโควิดสายพันธุ์อินเดียที่จับเซลล์มนุษย์ง่ายขึ้น สามารถกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลต้าพลัส จึงทำให้ผู้สัมผัสเชื้อติดเชื้อง่ายกว่าเดิม และสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ดี อาการโควิดคือ มีอาการทั่วไปคล้ายหวัดธรรมดา ปวดศีรษะ มีน้ำมูก เจ็บคอ การรับรสชาติปกติ
5. อาการโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
เป็นโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ล่าสุดที่ถูกค้นพบครั้งแรกในแอฟริกา หลบหลีกภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น แต่ผู้ป่วยอาการโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้มักติดเชื้อในลักษณะที่เป็นระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ลงปอด อาการป่วยจึงไม่รุนแรง จมูกยังสามารถได้กลิ่น ลิ้นรับรสได้ดี ไม่ค่อยมีไข้ ไอมาก มีอาการเจ็บคอ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปอดอักเสบ มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน
อาการโควิดสายพันธุ์ใหม่ต่างจากเดิมอย่างไร
สำหรับผู้ที่ติดโควิดสายพันธุ์ใหม่ เช่น สายพันธุ์โอมิครอน (B.1.1.529) จะพบว่าผู้ป่วยจะมีอาการเล็กน้อยหรือแทบจะไม่แสดงอาการเลย หรือ อาจพบอาการเหล่านี้ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ไม่ค่อยมีไข้ จมูกยังได้กลิ่น ลิ้นยังสามารถรับรสได้ อาจมีอาการไอเล็กน้อย ไอแห้ง เหงื่อออกมากตอนกลางคืน ปอดอักเสบ อาการที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นอาการโควิดระลอกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากอาการโควิดเดิม ที่จะมีไข้อุณหภูมิ 37.5๐C ขึ้นไป ไม่รับรส ไม่รับกลิ่น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ตาแดง มีผื่นและถ่ายเหลว