แบบบ้านแต่ละสไตล์ย่อมมีการเลือกอุปกรณ์ตกแต่งแตกต่างกันออกไป ทั้งเพื่อความเหมาะสมที่สวยงามและเพื่อลักษณะการใช้งานที่สอดคล้องกับพื้นที่นั้นๆ ประตูบ้านก็เช่นกัน เป็นเหมือนตัวจบภาพกว้างของบ้าน ที่บริษัทรับสร้างบ้านหลายที่ออกแบบเพื่อชูไอเดียและสไตล์ของบ้านให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ประตูที่แข็งแรง รูปลักษณ์ที่เหมาะสมของแต่ละสไตล์ แต่ละวัสดุ ล้วนมีทริคความเฉพาะที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเลือก
5 เรื่องต้องรู้ เลือกประตูให้เหมาะกับสไตล์และพื้นที่บ้าน
งานออกแบบบ้านเป็นการถ่ายทอดไอเดียภาพในฝันของเจ้าของบ้านให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งความต้องการบางจุดอาจถูกจำกัดด้วยพื้นที่ ลักษณะการใช้งาน เฟอร์นิเจอร์ ดังนั้นการเลือกประตูให้เหมาะสมกับสไตล์และพื้นที่บ้านมีเรื่องที่ควรรู้ต่างๆ ดังนี้
1. ประเภทและขนาดประตู
การเลือกประเภทของประตูให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานจะทำให้เรามองแบบบ้านและเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้ง่ายขึ้น เช่น ห้องโถงใหญ่ที่อาจเปิด-ปิดบ้างตามกิจกรรมต่างๆ อาจเลือกใช้ประตูบานเฟี้ยม เพราะบานเล็กพับเก็บไม่เปลืองพื้นที่
รู้จักประเภทของประตูที่นิยมในปัจจุบัน
- ประตูบานเปิด คู่-เดี่ยว เป็นแบบประตูที่มีการใช้งานทั่วไป ขนาดมาตรฐาน (ความกว้าง×ความยาว) 90×200 เซนติเมตร หรือ 100×200 เซนติเมตร และต้องเผื่อองศาการเปิด-ปิด อยู่ที่ 90-180 โดยประมาณ
- ประตูบานสวิง เป็นประตูที่ใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก เพราะลักษณะการใช้งานเป็นการผลักและดึง ฉะนั้นพื้นที่ทั้งผลักและดึงจึงควรเผื่อระยะบานประตูรวมๆ 180 องศา ขนาดทั่วไป (ความกว้าง×ความยาว) 90×210 เซนติเมตร
- ประตูบานเลื่อน เป็นแบบประตูที่เหมาะกับบ้านหรือห้องที่มีพื้นที่ไม่มาก โดยใช้วิธีการติดตั้งรางเลื่อนประตูด้านบนหรือด้านล่าง แล้วแต่ความเหมาะสม ขนาด กว้าง ยาว ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ใช้งาน
- ประตูบานเฟี้ยม ลักษณะเป็นประตูบานเล็กๆ ต่อกันด้วยบานพับ และเปิดปิดแบบพับทบไปมา เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก ขนาดแต่ละบาน 50-60 เซนติเมตร จำนวนบานเฟี้ยมจะมากน้อยขึ้นอยู่กับพื้นที่
- ประตูม้วน จะไม่ค่อยเห็นในตัวบ้านพักอาศัย แต่จะเห็นใช้กับโรงรถ ขนาดต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง
2. ตำแหน่งที่ต้องการติดตั้งประตูบ้าน
เมื่อรู้จักประเภทของประตูแล้ว อีกเรื่องต้องรู้คือ ตำแหน่งการติดตั้ง หากเป็นภายนอกสิ่งที่ต้องคำนึงคือ วัสดุต้องทนต่อสภาพอากาศ แดด ฝน หากเลือกไม้ ควรใช้เป็นไม้เนื้อแข็ง หรือ เลือกเป็น ประตู WPC (Wood Plastic Composite ) ผลิตจากโครงสร้างไม้สังเคราะห์คุณภาพสูง หากเป็นตำแหน่งการติดตั้งเป็นภายใน เช่น ห้องน้ำ ควรเลือกที่ทนต่อความชื้นได้
3. การใช้งานและสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่
การใช้งานจะช่วยให้เลือกประเภทและวัสดุของประตูได้อย่างเหมาะสม เช่น ใช้งานที่ต้องทนแดด ทนฝน อายุการใช้งานนาน ต้องเลือกไม้ เช่น ไม้แดง ไม้โอ๊ก ไม้เต็ง เนื่องจากเป็นไม้เนื้อแข็ง หากเป็นห้องนอนควรเลือกที่ความแข็งแรง ให้ความรู้สึกปลอดภัย ไม่โปร่งแสง ไม่ยืดหดตัว หรือหากเป็นห้องนั่งเล่นควรเลือกประตูบานเลื่อน หรือปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์และคุ้นเคยกับการเลือกประตูที่เหมาะกับการใช้งาน
4. ลวดลายหรือแบบ
ลวดลายเป็นอีกหนึ่งอย่างที่บ่งบอกความเป็นตัวตนและสไตล์ของบ้านได้ หากเป็นบ้านสไตล์มินิมอล การเลือกสี วัสดุ ควรเลือกที่ให้อารมณ์เบา สะอาด อบอุ่น เช่น ลายไม้สน หรือหากเป็นบ้านสไตล์ luxury แน่นอนว่าจะต้องสอดคล้องทั้งลวดลาย และความเก๋และหรูหรา ตั้งแต่ประตูรั้วจนห้องนอนแน่นอน
5. งบประมาณ
ทุกตัวเลือกต้องตัดสินกันด้วยงบประมาณ เพราะความสวยงาม นวัตกรรมการผลิต การสั่งผลิตลวดลายเฉพาะ มักมีส่วนทำให้งบประมาณบานปลาย ดังนั้นจึงควรตั้งงบประมาณ และสำรวจราคาท้องตลาดเพื่อเทียบเคียง หรือใช้แทนในกรณีที่เกินงบประมาณ รวมถึงสำรวจไว้เป็นแผนสำรองหากมีเหตุฉุกเฉินกรณีเกิดการชำรุดระหว่างใช้งาน
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นประตูเป็นภาพกว้าง ภาพจบของบ้านที่จะสามารถบ่งบอกไอเดียบ้าน สไตล์บ้านได้ การเลือกวัสดุลวดลายหรือประเภทของประตูมาตกแต่งบ้านก็เป็นการตะโกนฐานะไปในตัว ภาพบ้านให้ฝันจะออกมาได้ตรงใจหรือไม่ การได้รู้ทริคการเลือกใช้ประตูแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับพื้นที่แต่ละจุดก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการหาบริษัทรับสร้างบ้านดีๆ เลย
บ้านจัดสรรโคราช: เรื่องต้องรู้ เลือกประตูให้เหมาะกับสไตล์และพื้นที่บ้าน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/home3/