ผู้เขียน หัวข้อ: mobile expo: ASUS Vivobook S 14 Flip OLED โน้ตบุ๊ก 2 in 1 จอทัช พับได้ ตัวจบสายท  (อ่าน 54 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 304
  • โฆษณาโปรโมชั่นของท่าน*ได้กระจายสู่การรับรู้สู่ลูกค้าได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น สอบถาม รับจ้างโพสเว็บ
    • ดูรายละเอียด
mobile expo: ASUS Vivobook S 14 Flip OLED โน้ตบุ๊ก 2 in 1 จอทัช พับได้ ตัวจบสายทำงาน

ASUS Vivobook S 14 Flip OLED TP3402ZA-KN501WS (QUIET BLUE) (Intel 12th GEN) ราคาเปิดตัว 31,990 บาท (ปัจจุบันอาจหาซื้อได้ประมาณ 28,000 บาท - 29,000 บาท)

จุดเด่น
หน้าจอ OLED ความละเอียดสูง 2.8K ขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 Refresh rate 90Hz
ชิป CPU i5-12500H ตัวแรง ทำให้รองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ
หน้าจอแบบสัมผัส และพับได้แบบ 360 องศา ทำให้ใช้งานได้ค่อนข้างยืดหยุ่น
น้ำหนัก 1.5 kg ไม่หนักจนเกินไป พกพาไปทำงานได้ทุกวัน
เซนเซอร์สแกนนิ้วทำให้ปลดล็อคหน้าจอได้ง่ายและเร็ว โดยไม่ต้องกด Password
มี ASUS NumberPad 2.0

จุดสังเกต
หน้าจอที่เป็นแบบ OLED Glossy ทำให้เกิดเงาสะท้อนขึ้น
ด้วยชิป CPU i5-12500H ตัวแรง และพัดลม 1 ตัวทำให้มีความร้อนได้ง่าย
การวางมือบนหน้าจอเพื่อใช้ปากกาในการเขียน ยังไม่ค่อยดีนัก มีการเลื่อนของหน้าจอได้ง่าย
 
 
สรุปแบบสั้นๆ
ASUS Vivobook S 14 Flip OLED TP3402ZA-KN501WS (QUIET BLUE) (Intel 12th GEN) เป็นโน้ตบุ๊กสายทำงานจากตระกูล Vivobook จาก ASUS แต่ในรุ่นนี้ความพิเศษตรงที่หน้าจอเป็นแบบทัชสกรีน สามารถจิ้มสัมผัสจอหรือใช้ปากกา ASUS Pen 2.0 ที่แถมมาให้ ใช้เขียน จด หรือวาด ได้ ตัวนี้ใช้ชิปประมวลผลจากทาง Intel Core i5-12500H ระดับเกมมิ่ง ถึงแม้ว่า CPU จะเป็น Intel 12th GEN แต่ในยุค 2023 ก็ยังถือน่าเล่นอยู่ ซึ่งตอนนี้สามารถหาซื้อได้ในราคาคุ้มกว่าเดิมด้วย เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา รวมถึงคนทำงานมากๆ และออกตัวก่อนว่ารุ่นนี้ผู้เขียนได้ซื้อมาใช้เองด้วย ซึ่งใช้งานมาได้สักพักแล้ว จะเป็นยังไงเดี๋ยวไปดูพร้อมกันเลยครับ
 
 
ด้านดีไซน์

ASUS Vivobook S 14 Flip OLED มีวัสดุเป็น Aluminium + Plastic มาพร้อมกับสี QUIET BLUE เป็นสีน้ำเงินเข้ม ให้ลุคดูเข้ม สุขุม ฝาหลังเป็นดีไซน์เรียบหรู ตรงโลโก้มีเขียนว่า ASUS Vivobook มีลักษณะนูนๆ ขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อให้โลโก้ดูโดดเด่น มีการเคลือบ ASUS Antibacterial Guard ป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียได้ถึง 99% ด้วย และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.5 กก. พกพาสบาย ไม่หนักมาก โดยรวมหากพกไปทำงานบอกเลยครับว่าดูดีมากๆ เลยครับ

เมื่อเปิดฝาหน้าจอขึ้นก็จะเจอกับ Web Camera ตรงกลางของขอบจอด้านบน เป็นความละเอียดแบบ FULL HD นะครับ ใช้ Video Call หรือประชุมงาน ก็แสดงภาพของเราออกมาได้ชัดเจน ซึ่งทาง ASUS ก็ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ด้วยนะครับ จึงมี Privacy Shutter เป็นม่านเปิด/ปิดกล้อง Web Camera เพื่อป้องกัน Hacker เข้ามาดูผ่านกล้องของเรา และปิดกล้องเวลาที่เราไม่ต้องการใช้งานได้ด้วย แต่ต้องระวังนิดนึงนะครับ เพราะตอนเปิดฝาหน้าจอขึ้น นิ้วเราอะไปโดนตัว Web Camera แล้วอาจทำให้กล้องมัวได้ แต่ก็สามารถเช็ดออกได้ และมีไมโครโฟน ASUS AI Noise Cancelation ซึ่งจะช่วยลดเสียงรบกวนเวลาสนทนาได้ครับ
 

ในส่วนคีย์บอร์ดเป็น ASUS ErgoSense keyboard ใช้งานได้ดี มีแทบลวดลายเล็กน้อยตรงปุ่ม Enter ตามสไตล์ของ Vivobook มีไฟ Backlit สีขาวที่ไต้ปุ่มคีย์บอร์ด ทำให้เราสามารถใช้งานในที่มืดได้ อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ด คือตรงบริเวณ TouchPad มี ASUS NumberPad 2.0 สามารถเปิด/ปิด หรือเพิ่ม/ลดแสงได้ 1 ระดับ  ก็จากที่ใช้งานแล้วสามารถใช้งานได้จริงนะครับ ใช้ร่วมกับการลากนิ้วเพื่อเลื่อนเคอร์เซอร์เม้าส์ได้ ส่วนการกดตัวเลขอาจต้องหันลงไปมองหน่อยนะครับ เพราะการสัมผัสจะเรียบๆ ครับ
 
ASUS Vivobook S 14 Flip OLED รุ่นนี้ก็รองรับ Fast fingerprint login เป็นการแสกนนิ้วเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้อย่างรวดเร็วครับ ซึ่งจะอยู่ตรงปุ่ม Power และปุ่มนี้ก็มีสัมผัสที่ต่างออกไป มีความลึกลงไปเล็กน้อย ทำให้ป้องกันการมือลั่นไปโดนได้ครับ


โหมดการใช้งานและปากกา Stylus

ASUS Vivobook S 14 Flip OLED มาในสไตล์ Flip มีบานพับที่แข็งแรง สามารถพับไดัแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ซึ่งสามารถปรับได้ 4 โหมดคือ โหมด Laptop, โหมด Stand, โหมด Tent และโหมด Tablet เมื่อเราพับหน้าจอลงไปเกิน 180 องศาแล้วนะครับ ตัวคีย์บอร์ดจะตัดการทำงานทันที เพื่อป้องการปุ่มลั่นเวลาเราวางลงไปนะครับ โดยจะเน้นการใช้งานการสัมผัสหน้าจอแทน ส่วนเรื่องการป้องกันลื่นไถลเวลาปรับโหมดต่างๆ ก็ทำมาได้ดีครับ ซึ่งมียางป้องกันบริเวณขอบด้านบนจอและตรงคีย์บอร์ด และส่วนตัวผู้เขียนชอบโหมด Tent ครับ สามารถใช้รับชมภาพยนตร์หรือ Netflix บนโต๊ะหรือบนที่นอนได้สบายเลยครับ
 

นอกจากจอทัชสกรีนได้แล้ว ยังแถมปากกา Stylus ASUS Pen 2.0 รองรับแรงกด ได้ถึง 4,096 ระดับ แสดงความหนาของเส้นออกมาได้แตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับน้ำหนักการกด สามารถเปลี่ยนหัวของปากกาเพิ่มได้ โดยจะมี B, HB, H และชาร์จด้วย USB-C จากที่ใช้งานก็มีขนาดใหญ่จับถนัดมือ สามารถใช้งานจดบันทึกหรือเขียนทั่วไปได้โอเคเลยครับ แต่เรื่องของการวางมือบางทีทำให้จอเลื่อนบ้างครับ ต้องยกมือเขียนขึ้นมาหน่อย หากใครต้องการใช้งานวาดรูป กราฟิก หรือทำงานระดับมืออาชีพด้วยปากกา อาจยังไม่ค่อยเหมาะเท่าไรครับ


ด้านสเปก

ASUS Vivobook S 14 Flip OLED มาด้วยหน้าจอแบบ Touch screen พาเนล OLED Glossy ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880x1800) อัตราส่วน 16:10 Refresh rate ลื่น 90hz ความสว่างได้มากถึง 600nits ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, HDR True Black 500, 1.07 billion colors, 0.2 response time และ รองรับ PANTONE Validated

ขับเคลื่อนด้วยชิปจากค่าย Intel เป็น CPU Intel Core i5-12500H 4 (P-Core) / 8 (E-Core) / 16 Threads การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics, RAM 8GB DDR4 On Board 3200Mhz (ใส่ได้สูงสุด 2 ช่อง), Storage 512GB SSD PCIe M.2 Gen 4, Sound by Harman Kardon มี Smart AMP ที่ทำให้เสียงดังชัดเจนมากขึ้น 3.5 เท่า และรองรับ Dolby Atmos, Wireless LAN 802.11ax (Wi-Fi 6), 90W AC Adapter

ถือว่าให้สเปกหน้าจอมาคุ้มเลยครับ ด้วยจอขอบเขตสีที่กว้างและสดใสและ CPU 12th Geh มีแบ่งการทำงาน P-Core สำหรับการใช้งานประสิทธิภาพสูง ส่วน E-Core สำหรับการใช้งานทั่วไป และเป็นรหัส H ระดับเกมมิ่ง สามารถใช้งานความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง ดู Netflix ได้อย่างจัดเต็มมากๆ รวมถึงการทำงานกราฟิก หรือสาย Creator ที่จะนำไปใช้งานโปรแกรมตระกูล Adobe เช่น Photoshop, Premiere Pro , Illustrator หรือ Lightroom ก็ทำได้ดีเช่นกันครับ แต่ด้วยจอเป็นแบบกระจก Glossy ทำให้มีแสงสะท้อนของจอบ้างครับ ไม่ได้เนียนตาแบบจอ IPS ส่วนเรื่องของการเล่นเกมจะต้องเป็นเกมออนไลน์ทั่วไปที่ไม่กินสเปกมาก เพราะไม่ได้มีการ์ดจอแยกมาให้ครับ และแนะนำให้เพิ่มแรมอีก 8GB เป็น 16GB จะเหมาะสมกับการใช้งานได้ดีเลยครับ
 

สำหรับช่องพอร์ตเชื่อมต่อส่วนใหญ่จะหนักไปทางฝั่งขวาครับ โดยจะมี USB-A 3.2 (1 ช่อง), HDMI (1 ช่อง) , Thunderbolt 4 supports display / power delivery (1 ช่อง). ช่องหูฟัง 3.5mm Audio combo (1 ช่อง) รวมถึงไฟสถานะ ส่วนด้านซ้ายจะมีช่อง USB-A 2.0 มา (1 ช่อง) และจะมีช่องพัดลมระบายความร้อน

รายละเอียดสเปกตัวเครื่อง ASUS Vivobook S 14 Flip OLED
- Display: OLED Glossy 14” 2.8K (2880x1800) 16:10 Refresh rate 90hz, 100% DCI-P3, HDR True Black 500, 1.07 billion colors, 0.2 response time, PANTONE Validated
- CPU: Intel Core i5-12500H, 4 (P-Core) / 8 (E-Core) / 16 Threads
- GPU: Intel Iris Xe Graphics
- RAM: 8GB DDR4 On Board 3200Mhz
- Storage: 512GB SSD PCIe M.2 Gen 4
- I/O Ports (พอร์ตเชื่อมต่อ)
     1 x USB-A 2.0
     1 x USB-A 3.2
     1 x HDMI 2.1
     1 x Thunderbolt 4
     1 x Audio combo 3.5mm
     1 x Power connector
- Web Camera: FHD with Privacy Shutter
- น้ำหนัก: 1.5 kg.
- Windows: 11 Home
- Software: Office Home & Student 2021
โปรแกรมตั้งค่า MyAsus
สำหรับโน้ตบุ๊กจากแบรนด์ ASUS ก็จะมีโปรแกรม MyAsus มาให้ด้วย เพื่อช่วยเรื่องการตั้งค่าต่างๆ เช่น ปรับความ Profile สีของหน้าจอ, ตั้งค่าการชาร์จแบตเตอรี่ไว้ที่ 80% เพื่อรักษาการใช้งานให้ยาวนานขึ้น, ตั้งค่าโหมดเสียง ดูหนัง ฟังเพลง, ตั้งค่าไมโครโฟน, ปรับโหมดความแรงของพัดลม และอื่นๆ ซึ่งโปรแกรมนี้ใช้งานได้ง่ายมากๆ เลยครับ เพียงแค่กดคลิกเลือกตั้งค่าที่ต้องการ รวมถึงอัปเดต Software ต่างๆ ภายในคลิกเดียวเลยครับ
 

สรุปการใช้งานและราคา
ASUS Vivobook S 14 Flip  OLED เป็นโน้ตบุ๊กทำงานที่คุ้มราคาเลยครับ เหมาะกับคนที่อยากได้นำไปทำงานเอกสาร ตัดต่อ/ทำกราฟิกบ้าง รวมถึงเพื่อรับชมความบันเทิงได้ดีมากเลย และเห็นว่าตัวนี้เป็น CPU Intel 12th Gen ที่ออกมานาน แล้วยังน่าเล่นอยู่ไหม ส่วนตัวขอตอบว่ายังน่าเล่นอยู่ แต่ถ้าสามารถหาได้ในราคาที่ถูกลงก็จะดีกว่าครับ

สำหรับราคาของ ASUS Vivobook S 14 Flip OLED TP3402ZA-KN501WS (QUIET BLUE) ตอนเปิดตัวอยู่ที่ 31,990 บาท แต่ตอนนี้ก็อาจหาซื้อได้ในราคาที่ถูกลงอยู่ที่ประมาณ 28,000-29,000 บาท หรือใครมีงบหน่อยขยับไป CPU Intel 13th Gen ได้ครับ