ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารสุขภาพ ผิวสวย หน้าใส กินอะไรแล้วผิวเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล  (อ่าน 75 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 225
  • โฆษณาโปรโมชั่นของท่าน*ได้กระจายสู่การรับรู้สู่ลูกค้าได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น สอบถาม รับจ้างโพสเว็บ
    • ดูรายละเอียด
หนึ่งในเทรนด์ความงามที่กำลังมาแรง นั่นก็คือการดูแลผิวให้มีสุขภาพดี ไม่มีริ้วรอย และมีผิวที่เปล่งปลั่งดูมีออร่า ในปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์และสถานที่ที่ช่วยเสริมความงามมากมาย รวมถึงยังมีขั้นตอนในการใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ต่าง ๆ ที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยและเพิ่มความขาวใส

แต่นอกจากการดูแลผิวจากภายนอกแล้ว การดูแลผิวจากภายในก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน นิสัยประจำวันของเรารวมถึงอาหารที่เราเลือกกินในแต่ละวันนั้นล้วนมีความสำคัญต่อการบำรุงผิว การรับประทานอาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยสร้างผิวที่แข็งแรงและเปล่งปลั่ง ทำให้ผิวได้รับสารอาหารจนมีสุขภาพดี และทำให้เกิดความงามจากภายในสู่ภานนอก

ถึงแม้ว่าความชราของผิวจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อาหารและวิถีชีวิตก็มีบทบาทสำคัญในกระบวนการแก่ชราของผิวที่จะเกิดขึ้นได้เร็วหรือช้า ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ เช่น การสัมผัสแสงแดดโดยไม่ได้ป้องกัน การสูบบุหรี่หรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การอดนอน และความเครียดที่มากเกินไปเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังดูมีอายุมากขึ้น

และแน่นอนว่าอาหารก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน นอกเหนือจากการช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น อาหารก็ยังช่วยให้ผิวใสเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และดูมีน้ำมีนวลได้ อย่างเช่น อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีปริมาณน้ำเป็นส่วนประกอบสูง และมีวิตามินซีที่ดี การหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและน้ำตาลก็ถือเป็นการช่วยป้องกันผิวที่ดีไม่ให้ผิวแก่และมีริ้วรอยก่อนวัยได้

 
7 อาหารผิวสวย หน้าใส

 
1. วอลนัท

วอลนัทเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารที่ดีต่อผิว เพราะเต็มไปด้วยวิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อผิวเป็นอย่างมาก สามารถช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ เช่น รอยแดงรอยดำและสิว รวมถึงยังช่วยเสริมสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ผิว วอลนัทยังมีระดับวิตามินอีที่เข้มข้นซึ่งสามารถช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนังและป้องกันอันตรายจากรังสียูวีได้

 
2. ชาเขียว

ชาเขียวอาจเป็นที่รู้จักในด้านเครื่องดื่มที่ช่วยลดน้ำหนัก แต่รู้หรือไม่ว่าซุปเปอร์ฟู้ดชนิดนี้ก็มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงผิวได้ด้วย เพราะโพลีฟีนอลในชาเขียวมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพซึ่งช่วยปลอบประโลมผิว บรรเทาอาการอักเสบ และป้องกันความเสียหายของผิวหนังจากรังสียูวีและสารพิษในสิ่งแวดล้อม

 
3. ผลเบอร์รี่

ต่อสู้กับปัญหาแก่ก่อนวัยและลดปัญหาการที่เซลล์ถูกทำลายด้วยอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างเบอร์รี่เหล่านี้ ผลเบอร์รี่ช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งของผิวด้วยแอนโธไซยานินในระดับสูง สารชนิดนี้เป็นสารประกอบจากพืชที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งดีต่อสุขภาพผิวในระยะยาว

 
4. ส้ม

ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม และเกรปฟรุต เต็มไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง วิตามินซีเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงผิวที่ทรงพลังที่สุด ช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งของผิวโดยลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดการเกิดฝ้า นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยรักษาริ้วรอยเล็ก ๆ และรอยเหี่ยวย่น เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นของคอลลาเจน และร่างกาายจะไม่สามารถสร้างคอลลาเจนได้หากไม่มีวิตามินซี

 
5. เมล็ดฟักทอง

เมล็ดฟักทองรวมถึงเมล็ดแตงโมและเมล็ดทานตะวัน ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กแต่ก็อัดแน่นไปด้วยสารอาหารในการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง เมล็ดฟักทองยังมีสังกะสีในปริมาณมากสูง ทำให้เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่ช่วยบำรุงผิวให้ใสและเปล่งปลั่ง สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่ช่วยคงความยืดหยุ่นของผิวและเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิว และนี่เองที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเมล็ดพืชชนิดนี้จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างความกระจ่างใสและช่วยฟื้นฟูผิว

 
6. มันเทศ

เบต้าแคโรทีนเป็นสารอาหารสำคัญที่ทำให้มันเทศเป็นหนึ่งในอาหารสำหรับผิวที่ดี มันเทศช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งได้ เพราะเบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ซึ่งวิตามินเอก็เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิว ช่วยเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิวและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว และทำให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง

 
7. โกจิเบอร์รี่

โกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้ ถูกนำมาใช้ในการแพทย์แผนจีนเป็นเวลาหลายปี เชื่อกันว่าโกจิเบอร์รี่สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและบำรุงสุขภาพร่างกายได้ เนื่องจากมีสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามิน A, C, สังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระ โกจิเบอร์รี่จึงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยบำรุงผิวของเราให้สวยจากภายในสู่ภายนอก

 

อาหารสุขภาพ ผิวสวย หน้าใส กินอะไรแล้วผิวเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/